บ้านวัยเกษียณเฟื่อง บริการครบวงจร รับสังคมสูงวัย

ระดมทุน startup เพื่อพัฒนาธุรกิจกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจประเทศไทย D - HOUSE GROUP ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ หรือ Business incubator สำหรับผู้เริ่มธุรกิจ Startup หรือ SME โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมผู้ประกอบการด้วยการวางรากฐานธุรกิจให้แก่ผู้เริ่มทำ Start up หรือเริ่มลงทุนธุรกิจ SME ตั้งแต่การอบรมแผนธุรกิจ พัฒนาไอเดียการทำธุรกิจ การวางแผนธุรกิจ การสร้างสินค้าต้นแบบ ไปจนถึงการวางแผนการระดมทุน Start up จากแหล่งทุนต่างๆ เพื่อให้ผู้เริ่มต้นธุรกิจมีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจอย่างเหมาะสม ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ D - HOUSE GROUP มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จของธุรกิจ Start up ในประเทศไทย จึงตั้งใจทำหลักสูตรอบรมธุรกิจ เพื่ออบรมนักธุรกิจหน้าใหม่ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้แนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงการพัฒนาความรู้ ทักษะที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เริ่มธุรกิจทุกราย ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ D - HOUSE GROUP ช่วยประเมินธุรกิจและวิเคราะห์แนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อดูโอกาสและความเป็นไปได้จัดอบรมแผนธุรกิจเพื่อให้ความรู้ และให้คำปรึกษาเพื่อการพัฒนาธุรกิจ โดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างให้ผู้ประกอบการยุคใหม่ ได้เรียนรู้ ทดลองและพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังคอยให้คำปรึกษาการทำธุรกิจและมอบกลยุทธ์การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงวางแผนการบริหารจัดการนวัตกรรมให้เป็นระบบ เรามุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้เริ่มทำธุรกิจ เพื่อพัฒนาธุรกิจและส่งเสริมการค้าให้เข้าสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน โปรแกรมการบ่มเพาะธุรกิจ กลุ่มธุรกิจเป้าหมายของศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ D - HOUSE GROUP จะมุ่งเน้นที่ 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ 1. กลุ่มธุรกิจอาหารสุขภาพ กลุ่มธุรกิจสุขภาพ อย่างอาหารฟังก์ชั่น กำลังเป็นที่สนใจอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับผู้เริ่มธุรกิจ SME ที่จะยกระดับมูลค่าทางธุรกิจให้สูงขึ้น อาหารฟังก์ชั่นหรือ Functional Foods คือ อาหารแห่งอนาคตที่มีคุณค่าทางโภชนาสูง ที่สามารถช่วยป้องกันโรคและรักษาโรคได้ด้วย แม้จะมีผู้ประกอบการในประเทศไทยได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจอาหารในอนาคตนี้หลายราย เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มมุ่งเน้นการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น 2. กลุ่มธุรกิจการแพทย์ ความสนใจในธุรกิจด้านการแพทย์มีแนวโน้มเติบโตสูงมากขึ้นในปัจจุบัน และมีการพัฒนานวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้านการแพทย์ขึ้นมากมาย เช่น การให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล การแพทย์แม่นยำ การแพทย์ทางเลือก การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรในการรักษา Genomic medicine และ Advance Medicine ในกลุ่ม ATMP (Advanced Therapy Medicinal Products) ที่ประกอบด้วย หรือ D - HOUSE GROUP และ มหาวิทยาลัยของ รัฐบาล เข้าร่วมโครงการ เป็นที่ปรึกษา การใช้ยีนหรือเซลล์บำบัด เช่น การบำบัดด้วย stem cell เป็นต้น Tissue Engineering และ Combined Therapy ซึ่งผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และการให้บริการทางการแพทย์เหล่านี้มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อการรักษาโรคที่เกิดจากนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นต้น ธุรกิจการแพทย์อย่าง คลินิกความงามหรือทันตกรรมมีอัตราการเติบโตขึ้นในแต่ละปีอย่างเห็นได้ชัด เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่สูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง 3. กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตร ธุรกิจเกษตรอุสาหกรรมในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สามารถพัฒนาให้มีศักยภาพแบบยั่งยืนได้ เพราะกว่า 40% ของคนไทยมีอาชีพเป็นเกษตรกรที่เชี่ยวชาญ และยังมีทรัพยากรภายในประเทศสำหรับการผลิตที่เพียงพอหากมีการส่งเสริมการค้าทางการเกษตร ก็ยิ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น เพราะยิ่งจำนวนประชากรโลกสูงขึ้น ปริมาณความต้องการอาหารก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีสำหรับผู้สนใจเริ่มธุรกิจ Startup ด้านนี้ สำหรับหลักสูตรอบรมธุรกิจ SME เพื่อพัฒนาธุรกิจในระยะยาว จะมีเนื้อหาพื้นฐานครอบคลุมทั้งวิธีการบริหารธุรกิจและเครื่องมือที่ใช้สำหรับการจัดการธุรกิจ ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้พื้นฐานความรู้ ดังต่อไปนี้ 1. แนวคิดการบริหารจัดการและการใช้เครื่องมือในการจัดการองค์กร 2. เทคโนโลยีการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อเจาะตลาดเข้าสู่ตลาดโลก 3. กลยุทธ์การค้าระหว่างประเทศและการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ 4. การระดมทุน Start up และการบริหารเงินทุนสนับสนุน SME 5. การพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ D - HOUSE GROUP เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งใจหรือวางแผนที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ ด้วยทีมงานไม่กี่คน และมุ่งหวังให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพราะสามารถช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจยังมีส่วนในการขับเคลื่อนธุรกิจ SME ให้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทได้อย่างเต็มรูปแบบ และส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศให้ยั่งยืนได้อีกด้วย ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ D - HOUSE GROUP เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังตั้งใจหรือวางแผนที่จะเริ่มธุรกิจใหม่








บ้านวัยเกษียณเฟื่อง บริการครบวงจร รับสังคมสูงวัย

2017 M12 28
ข่าวอสังหาฯ

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทยระบุว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมสูงวัยตั้งแต่ปี 2548 คือ มีจำนวนผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ถึง 10% ของประชากร และมีอัตราเพิ่มจำนวนเร็วกว่า 4% ต่อปี ขณะที่ประชากรรวมเพิ่มเพียง 0.5% คาดว่าไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2564 จะมีผู้สูงอายุ 20% ของจำนวนประชากร

ล่าสุดในปี 2561จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 16% ขณะนี้มีการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยหลายโครงการ ทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่

บ้านผู้สูงวัยธุรกิจแห่งอนาคต
ภาพรวมข้อมูลของธุรกิจนี้ พบว่า มีบ้านพักผู้สูงวัยเป็นจำนวนมาก ทั้งแบบขายขาดและให้เช่า อาทิ โครงการวิลล่ามีสุข เรสซิเดนท์เซส อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จำนวน 34 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 6 หลัง และคอนโดฯ 3 ชั้น 28 ยูนิต ราคา 3.4-5.5 ล้านบาท เปิดปี 2557, แสนสรา แอท แบคเม้าท์เท่น พื้นที่ 13.2 ไร่ ประกอบด้วย วิลล่า 13 ยูนิต และคอนโดฯ 30 ยูนิต ให้บริการในลักษณะให้เช่าระยะ 30 ปี ต่อสัญญาได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี ราคาขายเริ่มต้นที่ 8 ล้านบาท เปิดปี 2559, ปัยยิกา อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ 6 ไร่ เป็นห้องชุดพักอาศัย 62 ยูนิต ห้องพยาบาลและห้องพักฟื้น 32 ห้อง เปิดปี 2560

จิณณ์ เวลบีอิ้ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นคอนโดฯโลว์ไรส์ 7 ชั้น 1,300 ยูนิต เปิดปี 2560, เวลเนสซิตี้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่โครงการ 1,200 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 70 หลัง โรงแรม 2 อาคาร อาคารละ 79 ยูนิต คอนโดฯ 3 อาคาร อาคารละ 20 ยูนิต เปิดปลายปี 2560, กมลาซีเนียร์ ลิฟวิ่ง จ.ภูเก็ต ห้องชุด 200 ยูนิต วิลล่า 30 ยูนิต เปิดต้นปี 2561, ซีเนียร์คอมเพล็กซ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เนื้อที่ 72 ไร่ 1,000 ยูนิต ดำเนินการโดยโรงพยาบาลรามาธิบดี ในที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ เริ่มก่อสร้างปี 2560 คาดใช้เวลา 3-4 ปี

นอกจากนั้นยังมีโครงการของภาครัฐอย่างกรมธนารักษ์ ที่มีโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยใน 20 จังหวัด มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยที่มีรายได้ไม่สูงมาก โครงการแรกคือ บ้านสำหรับผู้สูงอายุครบวงจร จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีแผนพัฒนาโครงการบ้านเพื่อผู้สูงอายุใน 4 พื้นที่ คือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 600 ยูนิต จ.เชียงใหม่ 300 ยูนิต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 300-600 ยูนิต และ จ.เชียงราย

คนสูงวัยกำลังซื้อสูง
“ฐิตารี อยู่วิทยา” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ระบุว่า อีกไม่เกิน 5 ปี ไทยจะมีผู้สูงวัยมากขึ้นอย่างชัดเจน และผลจากการวิจัยพบว่าผู้สูงวัยยุคใหม่ เป็นกลุ่มคนที่สามารถพึ่งพิงตัวเองได้สูงกว่าในอดีต

ขณะที่กลุ่มคนที่ต้องพึ่งพาลูกหลานก็มีแนวความคิดที่จะแยกออกมาอยู่ด้วยตนเอง เพราะคนกลุ่มนี้มีการงานที่มั่นคงก่อนเกษียณและมีสังคม ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ และมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยวเป็นก๊วนกับเพื่อนวัยชราด้วยกัน เป็นต้น

สังคมไทยเป็นครอบครัวเล็กลงเรื่อย ๆ ผู้ใหญ่ยุคนี้สามารถตัดสินใจได้เองโดยเฉพาะกลุ่มคนโสด ซึ่งมีสัดส่วนถึง 40% วัดจากยอดจองโครงการ ส่วนใหญ่คือ หญิงโสด และหลังจากเปิดให้จอง 1 เดือน มียอดจองสูงถึง 30% ซึ่งเกินความคาดหมาย และยังมีคนที่สนใจมาลงทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวัยกลางคนสนใจโครงการ เฉลี่ยอายุต่ำสุดอยู่ที่ 30 ปี ที่มาจองโครงการ ซึ่งเป็นการวางแผนวัยเกษียณล่วงหน้า อาจจะกล่าวได้ว่า จิณณ์ฯ ถือเป็นโครงการแรกในไทยที่เปิดเป็นบ้านพักอาศัยผู้สูงวัยแบบครบวงจร สร้างเป็นเมืองวัยเกษียณ ที่รังสิต มีโรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า คลับเฮาส์ มีการเอ็นเตอร์เทน เพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงวัย เป็นโครงการขายขาด ห้องขนาด 43-67 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท ในอนาคตอาจจะทำเป็นโมเดลให้เช่าระยะยาวในกรณีที่ผู้วัยเกษียณบางคนไม่มีทายาทและไม่ต้องการยกมรดกให้ใคร ราคาจะลดลงมาอีก 25%

ขณะที่ “นันทา รุ่งนพคุณศรี” เจ้าของโครงการปัยยิกา กล่าวว่า บ้านปัยยิกาเป็นโครงการบ้านพักส่วนตัวสำหรับผู้สูงอายุ บนพื้นที่ 6 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี เปิดให้บริการผู้สูงอายุทั้งกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลตัวเอง และสามารถดูแลตัวเองได้ โดยมีบริการสไตล์รีสอร์ต มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส เป็นต้น แต่เพิ่มเติมคือการพาผู้สูงอายุไปทานอาหาร เดินเล่น ทานอาหารนอกสถานที่ รวมถึงพาไปเที่ยวต่างจังหวัดทุกปีมีห้องให้เลือก 2 แบบ คือ 1.ห้องทั่วไปสำหรับผู้ที่ดูแลตัวเองได้ ขนาด 40 ตารางเมตร ราคา 25,000 บาทต่อเดือน และ 2.ห้องพิเศษ สำหรับผู้ที่ดูแลตัวเองไม่ได้ 70 ตารางเมตร ราคา 30,000 บาทต่อเดือน ส่วนผู้ที่ต้องการให้มีพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ก็สามารถจ้างพยาบาลพิเศษได้ โดยเพิ่มเงินอีก 15,000 บาท

ปัจจุบันบ้านปัยยิกา มีห้องพักรวม 94 ห้อง เป็นห้องชุดพักอาศัย 62 ห้อง ห้องพยาบาลและห้องพักฟื้น 32 ห้อง โดยมีสโมสร ห้องอาหาร ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามหญ้าและบริเวณพักผ่อนในสวน

“สวางคนิเวศ” เมืองต้นแบบ
นอกจากนี้ยังมีบ้านพักของผู้สูงวัยในส่วนของภาครัฐนั้น ยกตัวอย่าง บ้านพักผู้สูงอายุ “อาคารสวางคนิเวศ” โครงการอยู่ภายใต้การกำกับของสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นอาคารต้นแบบสำหรับให้ผู้สูงอายุ สุขภาพดี พักอาศัย ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ เปิดทำการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 มีทั้งหมด 2 เฟส ประกอบด้วย อาคารชุด 6-8 ชั้น 9 อาคาร รวม 648 ห้องชุด

มีห้องทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ 1.ขนาดห้อง 33 ตารางเมตร มี 168 ห้อง ราคาสนับสนุนค่าห้อง 650,000 บาท 2.ขนาดห้อง 40-41.50 ตารางเมตร ราคาสนับสนุนค่าห้องเริ่มต้น 800,000 บาทขึ้นไป และ 3.ขนาดห้อง 41.50 ตารางเมตร มีห้องน้ำในตัวและระเบียง ราคาสนับสนุนค่าห้องเริ่มต้น 900,000 บาทขึ้นไป ซึ่งแต่ละห้องสามารถอยู่ได้ 2 คน และเมื่อเจ้าของเสียชีวิตห้องจะถูกนำไปเปิดให้จองต่อไป แต่ไม่สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้ นอกจากสามีภรรยาตามกฎหมาย หรือตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด

ผู้ที่จะจองห้องพักในสวางคนิเวศได้ ต้องเป็นผู้มีอายุมากกว่า 55 ปี ที่พร้อมเข้าอยู่อาศัยประจำและร่วมกิจกรรมกับทางอาคาร โดยมีค่าส่วนกลาง 2,500 บาท เก็บล่วงหน้า 5 เดือน ค่าไฟฟ้า ประปา และบริการอื่น ๆ เช่น ค่ากายภาพบำบัด บริการรถตู้ ค่าอาหาร ของใช้ส่วนตัว และค่ารักษาพยาบาล

นี่เป็นเพียงรูปธรรมที่ทยอยเกิดขึ้นเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย และคาดว่าในอนาคตก็จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
อ่านข่าวเกี่ยวกับอสังหาฯ ทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวสารและความเคลื่อนไหว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

1 ความคิดเห็น:

  1. บ้านวัยเกษียณเฟื่อง บริการครบวงจร รับสังคมสูงวัย

    ตอบลบ